คุณรู้หรือไม่ว่า วิธีการชงกาแฟไม่ได้มีแค่วิธีการฉีกซองแล้วใส่น้ำร้อน หรือใช้เครื่องชงอัตโนมัติในการชงเพียงเท่านั้น แต่ยังมีวิธีอื่นๆ อีกหลายหลายวิธีในการชงกาแฟที่มีมานานแล้วแต่เพื่อนๆ หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ โดยมีวิธีการชงต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.Drip
เป็นวิธีการชงกาแฟผ่านกระดาษกรอง โดยการค่อยๆ รินน้ำร้อนลงไปที่กาแฟให้น้ำไหลผ่านกระดาษกรองลงไปที่ภาชนะรองรับด้วยอุณหภูมิและความเร็วในการเทน้ำที่พอเหมาะเพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติดีที่สุด
2.Frence Press
เป็นการชงกาแฟโดยการใช้เพียงน้ำร้อนและเมล็ดกาแฟสดโดยตรง วิธีการชงคือให้นำเมล็ดกาแฟบดใส่ลงไปที่กาสำหรับชงด้วยวิธีนี้โดยเฉพาะแล้วเทน้ำร้อนใส่ตามลงไป จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 4 นาที แล้วจึงทำการกดเพื่อให้กากกาแฟลงไปด้านล่างก็เป็นอันเสร็จ วิธีการนี้จะทำให้ได้รสชาติกาแฟที่บริสุทธิ์ที่สุด
3.Espresso
เป็นวิธีการชงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแถบยุโรปตอนใต้ โดยการใช้แรงอัดไอน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด(ปัจจุบันนิยมชงด้วยเครื่องชงอัตโนมัติ) ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น และมักเสิร์ฟเป็นช็อตเพื่อให้มีปริมาณไม่มากจนเกินไป
4.Aeropress
เป็นวิธีการชงกาแฟที่ใช้แรงดันอากาศดันน้ำร้อนให้ผ่านผงกาแฟ ด้วยอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมกับกาแฟแต่ละชนิด และตัวกรอก Filter ที่มีรูพรุนขนาดเล็ก
5.Moka Pot
เป็นวิธีการต้มกาแฟสไตล์อิตาเลียน โดยเครื่องสำหรับการชงด้วยวิธีนี้จะแบ่งออกได้เป็นสามส่วน คือ หม้อใส่น้ำ กรวยกาแฟ และตัวกาด้านบน วิธีการชงก็เริ่มจากใส่น้ำลงไปในหม้อในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นใส่กรวยที่ใส่กาแฟบดแล้วลงไปแล้วปิดฝา นำเครื่องไปตมบนเตาแก๊ส เมื่อน้ำร้อนได้ที่ ไอน้ำที่อยู่ด้านล่างจะดันตัวสูงขึ้นมาผ่านกาแฟขึ้นมาอยู่ในกาด้านบนจนได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น
6.Syphon
เป็นวิธีการชงกาแฟโดยใช้หลักสุญญากาศ โดยเริ่มแรกให้นำน้ำไปใส่ที่หม้อต้มด้านล่าง จากนั้นจุดตะเกียงเพื่อต้มน้ำ พอน้ำเริ่มร้อนแรงดันจะดันน้ำไปที่หม้อด้านบนให้นำเมล็ดกาแฟบดใส่ลงไปแล้วขนให้เข้ากัน จากนั้นรอสักครู่น้ำที่ผสมกับเมล็ดกาแฟด้านบนจะไหลผ่านตัวกรองไปที่หม้อด้านล่าง เพียงเท่านี้เราก็จะได้กาแฟที่ชงแบบ Syphonแล้ว
7.Chemex
เป็นวิธีการชงกาแฟด้วยเครื่องชงชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะวิธีการชงคล้ายๆ กับการ Drip ที่ต้องเทน้ำร้อนใส่ผงกาแฟและผ่านกระดาษกรองลงไป แต่จะแตกต่างกันตรงที่ทุกขั้นตอนในการชงกาแฟนั้นจะต้องทำด้วยมือทั้งหมดตั้งแต่การบดเมล็ดกาแฟ
